บทที่3 กระบวนการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์
บทที่ 3 กระบวนการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์

การสร้างสรรค์งานจิตรกรรม
จิตรกรรม เป็นผลงานทัศนศิลป์แขนงหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการวาดเขียนและระบายสี มีลักษณะทั่วไปเป็นผลงานบนแผ่นพื้น 2 มิติ แต่ใช้กระบวนการเพื่อสร้างภาพลวงตาให้เกิดเป็น 3 มิติ โดยใช้สีชนิดต่างๆ เช่น สีน้ำ สีน้ำมัน สีฝุ่น ฯลฯ เป็นสื่อกลางในการแสดงออกถึงเจตนาในการสร้างสรรค์
โดยทั่วไปแล้ว จิตรกรรมมีหลายเรื่องราวที่ศิลปินนิยมนำมาสร้างสรรค์ ได้แก่ 1. จิตรกรรมประเภทหุ่นนิ่ง (Still Life) ได้แก่ การเขียนภาพจากหุ่นและแบบที่จัดไว้ ซึ่งสามารถเลือกหาได้ตามความต้องการทางด้านเนื้อหาและความคิดในการแสดงออกทางศิลปะ 2. จิตรกรรมประเภทภาพทิวทัศน์ (Landscape) ได้แก่ ภาพทิวทัศน์ต่างๆ เช่น ทะเล ป่าไม้ บ้านเมือง แม่น้ำ จิตรกรรมประเภทนี้จะใช้สีบรรยากาศ ระยะตื้น-ลึก ใกล้-ไกล เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ภาพมีความสวยงาม 3. จิตรกรรมประเภทภาพคน (Portrait) ได้แก่ การเขียนภาพเกี่ยวกับชีวิตของคนหรือภาพคนเหมือน ซึ่งมีลักษณะพิเศษในด้านของรูปร่างหน้าตา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวาตามบุคลิกภาพของแต่ละคน 4. จิตรกรรมประเภทภาพสัตว์ (Animals) ได้แก่ การเขียนภาพสัตว์ต่างๆ โดยสร้างสรรค์ให้มีชีวิตชีวาตามลักษณะของสัตว์ประเภทนั้นๆ 5. จิตรกรรมประเภทเรื่องราวจากศาสนา ประวัติศาสตร์ และวรรณคดี (Religion, History and Literature) ได้แก่ ภาพเขียนที่เป็นเรื่องราวของศาสนา ประวัติศาสตร์ วรรณคดี โดยจะเป็นภาพที่ผสมผสานเรื่องราวทุกอย่างเข้าด้วยกัน
การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมสีน้ำ การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมสีน้ำ จะต้องมีขั้นตอนและอุปกรณ์ที่ใช้สร้างสรรค์งานจิตรกรรม เครื่องมือและวัสดุ อุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์จิตรกรรมสีน้ำ ประกอยด้วย 1. กระดาษ (Paper) โดยทั่วไปกระดาษสำหรับสีน้ำจะมีผิวแตกต่างกัน ทั้งผิวหยาบและผิวเรียบ โดยกระดาษผิวหยาบสีจะแห้งเร็วกว่าพื้นผิวเรียบ แต่กระดาษพื้นผิวเรียบจะสามารถเช็ดสีออกจากกระดาษได้ดีกว่า 2. ดินสอ และยางลบ ดินสอควรจะใช้เกรดอ่อนๆ เช่นHB หรือไม่เกิน 2B เพราะไส้ดินสอที่ดำมากเกินไปอาจจะละลายเวลาที่ระบายสีทำให้ภาพคล้ำได้ ส่วนยางลบควรเป็นชนิดอ่อน จะได้ไม่ทำให้กระดาษช้ำ เวลาระบายสีจะไม่มีร่องรอยขุยของกระดาษอยู่ 3. สีน้ำ (Watercolour) สีน้ำโดยทั่วไปมี 2 เกรด คือ สำหรับนักเรียน ราคาไม่สูงมาก และสำหรับศิลปินจะมีราคาสูงตามคุณภาพของสี สีน้ำจะมีบรรจุภัณฑ์ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม 3 ลักษระ คือ (1) แบบหลอด เป็นที่นิยมกันทั่วไป สีจะมีความชื้นและแตกตัวได้ดี (2) แบบบรรจุเสร็จในจานสีแบบเป็นก้อนแข็ง เหมาะสำหรับการพกติดตัวไปเขียนนอกสถานที่ (3) แบบขวด มีลักษณะเป็นสีโปร่งใส 4. จานสี (Plate) จานสีมีหลายรูปแบบและหลายขนาดแบที่มีฝาเปิด-ปิด ซึ่งเหมาะสำหรับเขียนภาพนอกสถานที่ ส่วนแบบพลาสติกที่มีช่องเรียงไว้ข้างๆเหมาะสำหรับใช้ในห้องทำงาน การใช้จานสีนั้นควรบีบสีเรียงจากสีออ่นไปหาสีเข้ม และแยกสีวรรณะร้อน (Warm Tone) และวรรณะเย็น (Cool Tone) ออกจากกันเพื่อไม่ให้สีปะปนกัน 5. พู่กัน (Brush) พู่กันที่ดีต้องมีคุณสมบัติที่ป้ายแล้วมีจังหวะสปิงตัวเล็กน้อย โดยพู่กันมี2 ลักษณะ คือ พู่กันชนิดกลม และพู่กันชนิดแบน มีให้เลือกใช้ตั้งแต่เบอร์เล็กซึ่งใช้สำหรับตัดเส้น จนถึงเบอร์ใหญ่สำหรับระบายพื้นที่ขนาดกว้าง โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ของสิ่งที่วาดและความต้องการของศิลปิน 6. ฟองน้ำ (Sponge) เป็นส่วนช่วยในการทาน้ำมันบนกระดาษที่ได้ผลเร็ว และใช้ในการซับสีที่ไม่ต้องการออกหือจะใช้ซับพู่กันที่ชุ่มน้ำหรือสีมากเกินไปได้อีกด้วย 7. ผ้าเช็ดพู่กัน (Clothes) จะใช้สำหรับซับน้ำหรือซับสีจากพู่กันให้เจือจางลง ก่อนที่จะระบายลงบนแผ่นกระด 8. ภาชนะใส่น้ำ (Vessel) ถ้าหากเขียนภาพอยู่ภายในห้องทำงาน สามารถเลือกใช้ได้ทั้งกระบอกน้ำพลาสติกหือขันน้ำพลาสติก แต่ถ้าออกไปเขียนภาพนอกสถานที่ ควรใช้กระบอกพลาสติกที่มีฝา แบ่งน้ำใส่ถ้วยต่างหากซึ่งควรเปลี่ยนน้ำให้สะอาดอยู่เสม 9. กระดานสเกตช์และตัวหนีบ (Board and Clip) กระดานสเกตช์จะทำด้วยไม้อัดแผ่นเรียบหรือกระดาษหนาแข็ง นอกจากนี้ตัวหนีบซึ่งควรใช้หนีบทั้ง4 มุมกระดาษ เพื่อกันกระดาษย่นงอ หรือปลิว 10. ขาตั้งเขียนภาพและเก้าอี้ (Easel and chair) การเขียนภาพนอกสถานที่จำเป็นต้องมีขาตั้งเขียนภาพ และเก้าอี้แบบเล็กๆพับได้ มีน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพา เป็นอุปกรณ์ช่วยให้สะดวกในการเขียนภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น